วิธีการเทรดกับ Weltrade ในประเทศไทย: แนวทางปฏิบัติสำหรับนักเทรด

การเริ่มต้นใช้งาน Weltrade สำหรับนักเทรดไทย

Weltrade ให้บริการแพลตฟอร์มเทรดทั้ง Forex และ CFD แก่นักลงทุนในประเทศไทย ผ่าน MetaTrader 4 และ 5 ระบบการลงทะเบียนรวดเร็ว เพียงไม่กี่นาที พร้อมยืนยันตัวตนภายใน 24 ชั่วโมง ผู้ใช้ต้องมีอีเมลและเอกสารประจำตัวเพื่อเปิดบัญชี ฝากเงินขั้นต่ำเริ่มที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แต่เราแนะนำขั้นต่ำ 25-50 ดอลลาร์เพื่อประสิทธิภาพการเทรดที่ดี ระบบถอนเงินดำเนินการเร็วภายใน 30 นาทีทุกวัน

ขั้นตอนการลงทะเบียนบัญชี

เริ่มจากเข้าเว็บไซต์ Weltrade คลิก “Registration” ที่มุมขวาบน กรอกอีเมล รหัสผ่าน และเลือกประเทศไทยเป็นประเทศที่อาศัย นอกจากนี้สามารถลงทะเบียนผ่าน Google, Facebook หรือ Line ได้ หลังยอมรับข้อตกลง คลิก “Create Account” จากนั้นตรวจสอบอีเมลเพื่อยืนยันบัญชี ระบบจะนำไปยังแดชบอร์ดหลักของบัญชี

สำหรับมือถือ ดาวน์โหลดแอป Weltrade จาก Google Play หรือ App Store เปิดแอป กด “Sign up” แล้วกรอกข้อมูลหรือใช้บัญชีโซเชียล ยืนยันอีเมลและเบอร์โทรตามขั้นตอนเพื่อเสร็จสิ้นการลงทะเบียน

กระบวนการยืนยันตัวตนและเอกสาร KYC

ระบบ KYC ของเราเน้นยืนยันตัวตนด้วยเอกสารราชการ เช่น หนังสือเดินทาง บัตรประชาชน หรือใบขับขี่ โดยต้องเป็นเอกสารที่ชัดเจนและไม่หมดอายุ พร้อมหลักฐานที่อยู่อาศัยที่ออกภายใน 3 เดือน เช่น ใบแจ้งหนี้สาธารณูปโภคหรือ statement ธนาคาร เอกสารทั้งหมดต้องตรงกับข้อมูลบัญชี กระบวนการใช้เวลาประมาณไม่เกิน 24 ชั่วโมง

• อัปโหลดเอกสารผ่านแดชบอร์ดในส่วน “Account Verification”
• เลือกประเภทเอกสารและอัปโหลดไฟล์ที่ชัดเจน
• รอการตรวจสอบและรับแจ้งผลทางอีเมล
• ติดต่อฝ่ายสนับสนุนหากมีปัญหาในการยืนยัน
• รักษาข้อมูลให้ถูกต้องเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด

การยืนยันตัวตนเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้สามารถใช้บริการฝาก-ถอนเงินได้อย่างเต็มที่และปลอดภัย

ประเภทบัญชีเทรดดิ้งที่ Weltrade มีให้เลือก

เรามีบัญชีเทรดหลายประเภทเหมาะกับนักเทรดทุกรูปแบบ บัญชี Standard เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น มีสเปรดแบบแปรผันและไม่มีค่าคอมมิชชัน ขณะที่บัญชี Pro เหมาะสำหรับนักเทรดมืออาชีพ มีสเปรดต่ำกว่าพร้อมค่าคอมมิชชัน การเปลี่ยนประเภทบัญชีสามารถทำได้ในแดชบอร์ดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

• บัญชี Standard: สเปรดเริ่มต้นที่ 1.5 pip, ไม่มีค่าคอมมิชชัน
• บัญชี Pro: สเปรดเริ่มต้นที่ 0.1 pip, ค่าคอมมิชชัน $3.5 ต่อ lot
• เปลี่ยนประเภทบัญชีได้ตามต้องการผ่านแดชบอร์ด
• ฝากเงินเพิ่มเติมตามประเภทบัญชีที่เลือก
• เหมาะสมกับเป้าหมายและประสบการณ์การเทรด

วิธีเลือกบัญชีที่เหมาะสม

พิจารณาระดับประสบการณ์และสไตล์การเทรด หากเน้นเทรดระยะสั้นและต้องการต้นทุนต่ำ บัญชี Pro เหมาะสม สำหรับผู้เริ่มต้นควรใช้บัญชี Standard เพื่อฝึกฝนและเรียนรู้การเทรด

วิธีการฝากเงินเข้าบัญชีเทรดดิ้ง

ผู้ใช้สามารถฝากเงินผ่านเมนู “Cashier–Financial operations” ในแดชบอร์ดของเรา รองรับบัตรเครดิต VISA, MasterCard และ e-wallet หลากหลายประเภท ขั้นต่ำ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แต่แนะนำฝาก 25-50 ดอลลาร์เพื่อความคล่องตัวในการเทรด

ขั้นตอนฝากเงิน:

• เข้าสู่ส่วน Cashier ในแดชบอร์ด
• เลือกวิธีฝากเงินที่ต้องการใช้
• ระบุจำนวนเงินและยืนยันข้อมูล
• รอการประมวลผลซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-5 นาที
• รับแจ้งเตือนทางอีเมลเมื่อเงินเข้าบัญชี

การเลือกสกุลเงินบัญชีเทรด

บัญชีรองรับสกุลเงินหลัก เช่น USD, EUR, GBP สำหรับนักเทรดในประเทศไทย แนะนำใช้สกุล USD เนื่องจากเป็นมาตรฐานตลาด Forex การเปลี่ยนสกุลเงินหลังเปิดบัญชีไม่สามารถทำได้

การติดตั้งและใช้งาน MetaTrader

แพลตฟอร์มหลักของเราคือ MetaTrader 4 และ 5 สามารถดาวน์โหลดได้จากแดชบอร์ดหลังล็อกอิน หรือจากเว็บไซต์ MetaTrader อย่างเป็นทางการ สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการติดตั้งโปรแกรม สามารถใช้ WebTrader ผ่านเบราว์เซอร์ได้ทันที

ขั้นตอนติดตั้ง MT4/MT5

ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งจากแดชบอร์ด คลิกเปิดไฟล์และทำตามขั้นตอน หลังติดตั้งเสร็จ เปิดโปรแกรม เลือกเมนู “File” → “Login to Trade Account” กรอกหมายเลขบัญชีและรหัสผ่าน เลือกเซิร์ฟเวอร์ “Weltrade-Live” เพื่อเข้าสู่ระบบ

การตั้งค่าแพลตฟอร์ม

หลังเข้าสู่ระบบแล้ว เปิดชาร์ตใหม่จาก “File” → “New Chart” หรือคลิกไอคอนชาร์ต ใน Market Watch คลิกขวาเลือก “Show All” เพื่อแสดงสินทรัพย์ทั้งหมด ปรับไทม์เฟรม เพิ่มตัวบ่งชี้ และตั้งค่าสีได้ตามต้องการ สามารถบันทึกเทมเพลตเพื่อใช้ภายหลัง

การดำเนินการเทรดและการจัดการคำสั่งซื้อขาย

เปิดคำสั่งซื้อขายโดยคลิกขวาที่สินทรัพย์ใน Market Watch เลือก “New Order” หรือกด F9 กำหนดปริมาณ (Volume) เลือก “Buy” หรือ “Sell” ตามต้องการ คำสั่งที่เปิดดูได้ในแท็บ “Trade” ด้านล่างของแพลตฟอร์ม

การปิดคำสั่งทำได้โดยดับเบิลคลิกที่คำสั่งนั้นและกด “Close” ประเภทคำสั่งที่รองรับ ได้แก่ Market Order, Pending Order, Stop Loss, Take Profit และ Trailing Stop

• Market Order: เทรดในราคาปัจจุบัน
• Pending Order: ตั้งคำสั่งรอราคาเป้าหมาย
• Stop Loss: ป้องกันขาดทุนอัตโนมัติ
• Take Profit: ปิดกำไรอัตโนมัติ
• Trailing Stop: ปรับ Stop Loss แบบเคลื่อนตามราคา

การจัดการความเสี่ยง

แนะนำตั้ง Stop Loss ทุกคำสั่ง โดยไม่เสี่ยงเกิน 2-3% ของเงินทุนต่อการเทรด Position sizing คำนวณจากสูตร (เงินทุน × % เสี่ยง) ÷ (ระยะ Stop Loss × ค่าต่อ pip) การใช้ leverage ควรระวังเพราะเพิ่มทั้งผลกำไรและความเสี่ยง

เครื่องมือวิเคราะห์และตัวบ่งชี้ทางเทคนิคใน MetaTrader

MetaTrader รองรับตัวบ่งชี้ทางเทคนิคมากกว่า 30 รายการ เช่น Moving Average, RSI, MACD และ Bollinger Bands ผู้ใช้เพิ่มตัวบ่งชี้จากเมนู “Insert” → “Indicators” และเลือกชนิดที่ต้องการ

เครื่องมือวาดช่วยวิเคราะห์ระดับ support, resistance และหา pattern เช่น trend line, fibonacci retracement, channels ใช้งานได้จากแถบเครื่องมือหรือเมนู “Insert” → “Objects”

การใช้งาน Expert Advisors (EA)

EA คือโปรแกรมเทรดอัตโนมัติใน MetaTrader การติดตั้งโดยคัดลอกไฟล์ .ex4 หรือ .mq4 ไปยังโฟลเดอร์ Experts รีสตาร์ทโปรแกรม EA จะปรากฏใน Navigator

ลาก EA ไปยังชาร์ต กำหนดพารามิเตอร์และเปิดใช้งานโดยเลือก “Allow live trading” แนะนำทดสอบบนบัญชี demo ก่อนใช้งานจริง การตรวจสอบการทำงานดูได้จากแท็บ “Experts” และ “Journal”

การถอนเงินและการจัดการบัญชีเทรด

ถอนเงินผ่านเมนู “Cashier–Financial operations” เลือก Withdrawal วิธีถอนต้องตรงกับวิธีฝากเงินตามมาตรฐาน AML การประมวลผลถอนเงินใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีทุกวัน

ขั้นตอนถอนเงิน:

• เข้าส่วน Cashier และเลือก Withdrawal
• เลือกวิธีถอนเงินที่ต้องการ
• กรอกจำนวนเงินและยืนยันรายละเอียด
• รอการอนุมัติและประมวลผลถอนเงิน
• ตรวจสอบอีเมลแจ้งสถานะ

ควรตรวจสอบข้อมูลบัญชีให้ถูกต้องเพื่อให้การถอนเงินไม่ล่าช้า และสามารถจัดการบัญชีในแดชบอร์ดได้อย่างครบถ้วน เช่น เปลี่ยนรหัสผ่าน หรืออัปเดตข้อมูลส่วนตัว